คัมภีร์ห้าห่วง : The Book of Five Rings

    สุดยอดคัมภีร์กลยุทธ์ของซามูไรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งทั่วโลกยกย่องว่าเป็นเเนวทางการจัดการเเละบริหารกลยุทธ์อันยอดเยี่ยม ความลับสุดยอดที่ถูกบันทึกในคัมภีร์อมตะของซามูไรผู้มีวิถีดาบที่ยิ่งใหญ่ เเละไม่เคยพ่ายเเพ้เเก่คู่ต่อสู้ "มิยาโมโต้ มูซาชิ" คือ ซามูไรในอุดมคติของชาวญี่ปุ่น ที่โด่งดังเเละมีชื่อเสียงที่สุด "คัมภีร์ห้าห่วง" เขียนขึ้นโดย "มิยาโมโต้ มูซาชิ" นักรบผู้ไม่เคยพ้ายเเพ้ ซามูไรไร้สังกัด เเละอาจารย์ที่ไม่ขึ้นกับสำนักใด ส่วน "ตำราพิชัยสงครามประจำตระกูล" เขียนขึ้นโดย "ยางิว มูเนโนริ" นักรบผู้เเกล้วกล้า ที่ปรึกษาของโชกุนเเละหัวหน้าหน่วยสืบราชการลับ

    คัมภีร์ทั้งสองเล่มนี้เป็นหนังสือที่สำคัญยิ่งในเรื่องของกลยุทธ์เเละการต่อสู้ ซึ่งก่อกำเนิดมาจากวัฒนธรรมของนักรบชาวญี่ปุ่น โดยเนื้อหาชี้ให้เห็นถึงเเนวทางการต่อสู้เเละการดำเนินชีวิตด้วยวิถีของซามูไรที่มีแบบแผนชัดเจน นักเขียนทั้งสองเป็นนักต่อสู้ที่เกิดมาท่ามกลางวัฒนธรรมการต่อสู้อันยาวนานของญี่ปุ่น งานเขียนของพวกเขามิได้มีไว้เพื่อชนชั้นทหารซึ่งเป็นชนชั้นปกครองเท่านั้น เเต่มีไว้สำหรับผู้นำทางด้านอื่นๆ เฉกเช่นเดียวกับผู้ซึ่งเเสวงหาการเรียนรู้เพื่อตนเอง ซึ่งไม่ว่าจะเลือกเดินบนเส้นทางใด ก็สามารถมุ่งสู่ความสำเร็จในชีวิตได้อย่างเเท้จริง

คัมภีร์ห้าห่วง มิยาโมโต้ มูซาชิ
- คัมภีร์ดิน
- คัมภีร์น้ำ
- คัมภีร์ไฟ
- คัมภีร์ลม
- คัมภีร์แห่งความว่างเปล่า

ตำราพิชัยสงครามประจำตระกูล ยางิว มูเนโนริ
- ดาบปลิดชีพ
- ดาบให้ชีวิต
- ไร้ดาบ

- International Bestseller

ผมเคยอ่าน "โกะริงโนะโชะ" (คัมภีร์ห้าห่วง) มาก่อนหน้านี้แล้ว และเพิ่งมีโอกาสได้อ่าน "เฮโฮกะเด็งโชะ" (ตำราพิชัยสงครามประจำตระกูล) เมื่อได้มีการนำมาแปล จึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่นักอ่านชาวไทยจะได้สัมผัสสิ่งที่เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ของญี่ปุ่นโดยทำความเข้าใจได้ไม่ยากในเวลาไม่นานนัก สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกแปลกใจตัวเองทั้งเมื่อคราวที่อ่าน "โกะริงโนะโชะ" ครั้งแรก และเมื่อได้อ่านฉบับแปลควบในเล่มนี้คือ "ใจสงบ" ที่เรียกว่าแปลกคือ การอ่านหนังสือเกี่ยวกับการสู้รบ น่าจะให้ให้ตื่นเต้นนั่งไม่ติด แต่ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเพราะโดยเนื้อแท้แล้ว แก่นแท้ของการสู้รบทุกแขนงล้วนแต่เน้นสภาพจิตใจของผู้สู้รบ จึงเป็นการสอนให้สำรวจและจับตาดูทุกย่างก้าว และทุกย่างความคิดของตัวเองให้มั่นคงมีสติ และผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้อ่านชาวไทยจะได้นำจุดนั้นไปประยุกต์ในชีวิตประจำวันด้วยหลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้
    -- ดร.โฆษิต ทิพย์เทียมพงษ์ --