100 แนวทางเลี้ยงลูกให้ได้ดี ตั้งแต่วัย 3 ปี จนจบประถม : Parenting Best 100

    - ทำยังไงให้ลูก "ชอบอ่านหนังสือ" 
    - "ชม" และ "ดุ" ลูกอย่างไรให้ได้ผล
    - เวลาตักเตือนให้ "พูดสั้นๆ" และเรียบง่าย
    - ให้เวลาลูกได้ "เหม่อ" บ้าง
    - จงใจ "ตั้งคำถาม" ให้มาก
    - ทำอย่างไรเวลาลูกไม่ยอมหยุดเล่น "เกม" 
    - ไม่เปรียบเทียบกับ "เด็กคนอื่น" 
   
    นี่คือตัวอย่างวิธีการเลี้ยงลูกที่ได้ชื่อว่า Best of the Best ซึ่งรวบรวมไว้ในเล่มนี้แล้ว! ท่ามกลางตำราและข้อมูลด้านการเลี้ยงลูกมากมาย หากคุณเป็นพ่อแม่ที่มีเวลาน้อยเกินกว่าจะอ่านทั้งหมดได้ครบ หนังสือเล่มนี้เพียงเล่มเดียวอาจเป็นตัวช่วยที่น่าสนใจ เพราะได้รวบรวมเอา 100 หลักการสำคัญ สำหรับการเลี้ยงลูกให้มีทักษะเพื่อการอยู่ในสังคมยุคใหม่ โลกที่แคบเข้าและหมุนไวใบนี้ ผ่านการรวบรวมงานวิจัยประสบการณ์การเลี้ยงลูก และการทำงานของผู้เขียน "โนริโกะ คาโต" คุณแม่และนักเขียนที่เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงลูกและการศึกษา มีผลงานตีพิมพ์ร่วมกับสื่อชั้นนำมากมายในญี่ปุ่น

Section 1 ทักษะการสื่อสาร ต้องเสริมสร้างอย่างไร : "พูดกับลูกมาก ๆ ตั้งแต่ในวัยเด็ก"
Section 2 ทักษะทางความคิด ต้องเสริมสร้างอย่างไร : เพิ่ม "โอกาสในการคิก" ให้ได้มากที่สุด
Section 3 การนับถือตนเอง ต้องเสริมสร้างอย่างไร : สร้าง "จิตใจที่เข้มแข็ง" ไม่หวั่นเกรงต่อความเปลี่ยนแปลงง่าย ๆ
Section 4 ความคิดสร้างสรรค์ ต้องเสริมสร้างอย่างไร : "กระตุ้น" สมองที่มีความยืดหยุ่นให้มาก ๆ
Section 5 ทักษะการเรียนรู้ ต้องเสริมสร้างอย่างไร : ดึง "ความกระตือรือร้น" ออกมาด้วย feedback ที่มีประสิทธิภาพ
Section 6 แรงกาย ต้องเสริมสร้างอย่างไร : ทำให้สมองและร่างกายแข็งแรง "สารอาหารและการออกกำลังกาย"
- บทส่งท้าย

- ยอดขายกว่า 150,000 เล่ม ในญี่ปุ่น

หนังสือเล่มนี้จึงเป็นคู่มือคู่ใจให้กับคุณพ่อคุณแม่ที่ลูกอยู่ในวัยเริ่มโต ไม่ค่อยกังวลกับปัญหาจุกจิกเรื่องการกินนอนเท่าไรแล้ว แต่ขยับไปสู่เรื่องพฤติกรรม การใช้ชีวิต พัฒนาการ การเรียน และความสัมพันธ์ ตามชื่อหนังสือเลยคือเป็น 100 เรื่องที่เลือกมาให้แล้ว สำหรับบ้านที่มีลูกวัย 3 ปีจนจบประถม ว่าง่าย ๆ ก็คือก่อนจะเข้าสู่วัยรุ่นเต็มตัว เพราะตอนนั้นคงต้องไปกังวลว่าลูกปิดประตูห้องใส่ ลูกทำหน้าบึ้งไม่ยอมคุยด้วยแล้ว แม้เนื้อหาจะถูกเขียนมาจากผู้เขียนชาวญี่ปุ่น แต่วัฒนธรรมอันเป็นจุดร่วมของชาวเอเชียทำให้เราสามารถเชื่อมโยงตัวเองกับหนังสือเล่มนี้ได้ไม่ยากเย็น และคุณโนริโกะผู้เขียนค่อนข้างจะเป็นคนทันสมัยใช้ได้ ข้อมูลต่าง ๆ ที่อยู่ในหนังสือเป็นข้อมูลอัปเดต มีการพูดถึงทักษะใหม่ ๆ ที่สำคัญและจำเป็น ไม่ได้นั่งเทียนเขียนขึ้นมาเองด้วย แต่มีการอ้างอิงงานวิจัย หรือข้อเขียนจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญ ทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ นี่คือข้อดีของการจัดพิมพ์เป็นหนังสือ คือมันต้องผ่านการเรียบเรียงและตรวจสอบมาแล้วเป็นอย่างดี
    -- นิดนก --