คอลัมน์ ดร.ณัชร ชวนจัดตู้หนังสือ เล่มที่ 26 วันนี้ จะมาชวนคุยถึงหนังสือ “สมองแห่งพุทธะ” (Buddha’s Brain)
“ หนังสือธรรมะ-วิทยาศาสตร์ เบสต์เซลเลอร์ระดับโลกที่มีการแปลออกไปแล้วถึง 25 ภาษากันค่ะ
หนังสือเล่มนี้เขียนโดย ดร.ริค แฮนสัน และ นพ.ริชาร์ด เมนดิอัส โดยมีดร.แฮนสันเป็นผู้เขียนหลักค่ะ ดร.แฮนสันเป็นนักจิตวิทยาด้านประสาทวิทยา หรือ วิทยาศาสตร์ทางสมอง ส่วนนพ.เมนดิอัสเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางประสาทวิทยาเช่นเดียวกันค่ะ
แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือทั้งสองท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเจริญภาวนาตามหลักพระพุทธศาสนาถึงระดับเป็นครูสอนการภาวนาด้วยค่ะ ”
ในเล่มแบ่งเป็น 4 ภาค ค่ะ ประกอบไปด้วย 1) เหตุแห่งทุกข์ 2) ความสุข 3) ความรัก และ 4) ปัญญา ฟังดูไม่เป็นหัวข้อหนังสือวิทยาศาสตร์เลยใช่ไหมคะ ที่มาของหนังสือเล่มนี้คือการเพิ่งค้นพบภายใน 20 ปีที่ผ่านมานี้เองค่ะว่า สมองนั้นสามารถเปลี่ยนตัวเองไปได้เรื่อย ๆ ตามพฤติกรรม สภาพแวดล้อม กระบวนการทางระบบประสาท ความคิด อารมณ์ ฯลฯ
ดังนั้นหนังสือเล่มนี้จึงมุ่งที่จะเป็นคู่มือการปฏิบัติสำหรับสมอง นำเสนอวิธีการที่ท่านสามารถจะใช้ได้จริงเพื่อเปลี่ยนแปลงสมองของท่านให้ค่อย ๆ ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป
ผู้เขียนกล่าวไว้ในบทนำว่า หนังสือเล่มนี้มุ่งที่จะตอบคำถามว่า 1) สภาวะของสมองลักษณะใดที่เป็นรากฐานของสภาวะจิตใจที่มีความสุข ความรัก และ ปัญญา (ซึ่งผู้วิจารณ์มองว่าคือสภาวะจิตใจของ “ผู้เบิกบาน ผู้ตื่น และ ผู้รู้” นั่นเองค่ะ) 2) เราจะใช้ใจกระตุ้นและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับสภาวะของสมองในด้านบวกดังกล่าวนี้ได้อย่างไร
ซึ่งวิธีการฝึกใจที่ผู้เขียนนำเสนอซึ่งพิสูจน์โดยวิทยาศาสตร์มาแล้วก็คือการเจริญภาวนาในรูปแบบต่าง ๆ ของพระพุทธศาสนานั่นเองค่ะ
ถึงแม้เนื้อหาในเล่มส่วนประสาทวิทยาที่อธิบายการทำงานของสมองจะมีความเป็นวิทยาศาสตร์สูง แต่วิธีนำเสนอเป็นแนวเล่าเรื่องจะช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้นค่ะ
แถมผู้เขียนก็ใจกว้างพอที่จะบอกไว้ในบทนำว่า ถ้าท่านสนใจในวิธีการฝึกปฎิบัติมากกว่า ท่านก็สามารถจะอ่านข้ามส่วนที่เป็นวิทยาศาสตร์ล้วน ๆ ไปบ้างก็ได้
เช่น ผู้วิจารณ์คิดว่าท่านอาจจะไม่ต้องไปจำหรอกค่ะว่าการหายใจออกยาว ๆ จะไปกระตุ้นระบบประสาทพาราซิมพาเทติก เพียงแค่จำว่าการหายใจออกยาว ๆ นั้นช่วยให้ท่านผ่อนคลายก็พอ
หรือไม่ต้องไปจำว่าการเจริญสติภาวนาช่วยเพิ่มเนื้อเยื่อสมองส่วนที่เป็นสีเทาในสมองส่วนอินซูลา ฮิปโปแคมปัส และ คอร์เท็กซ์กลีบหน้าผากส่วนหน้า เพียงแค่รู้ว่าการเจริญสติภาวนาจะช่วยให้ท่านมีสมาธิดีขึ้น มีความเมตตามากขึ้น เข้าใจความรู้สึกผู้อื่นมากขึ้น และทำให้อารมณ์ดีขึ้นก็พอค่ะ
ผู้วิจารณ์เองก็สัมผัสได้ค่ะว่าดร.แฮนสันไม่ได้เขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาในฐานะ “นักวิทยาศาสตร์” หากแต่เขียนขึ้นมาในฐานะผู้ที่ได้รับประโยชน์มหาศาลจากการเจริญภาวนาตามแนวพระพุทธศาสนาคนหนึ่งที่มีจิตเมตตาอยากเห็นเพื่อนร่วมโลกได้รับความสุขสงบและปัญญาอย่างตนบ้าง จึงใช้วิทยาศาสตร์เป็น “อุบาย” เพื่ออธิบายธรรมแค่นั้นเอง
ทำให้อยากบัญญัติศัพท์ใหม่มาเรียกเขาว่าเป็น “นักวิทยาศาสน์” เสียด้วยซ้ำไปค่ะ
ถ้าท่านอ่าน ๆ ไปแล้วรู้สึกยากในบางครั้ง(เหมือนผู้วิจารณ์ ซึ่งก็เป็นผู้แปลด้วย)ก็ขอแนะนำให้ลองดูภาพรวมของทั้งหน้าดูก่อน ถ้ายังไม่แน่ใจก็ให้ข้ามไปอ่านข้อสรุป “ประเด็นหลัก” ท้ายบทก่อนนะคะ แล้วค่อยย้อนกลับมาอ่านในตัวบทอีกครั้ง จะอ่านได้สบายขึ้นค่ะ
ผู้เขียนทิ้งท้ายไว้ในบทนำค่ะว่า “เมื่อคุณเปลี่ยนสมอง คุณก็เปลี่ยนชีวิตของคุณด้วย”
แล้วชีวิตของผู้เขียนล่ะเปลี่ยนไปอย่างไร ผู้เขียนนำเสนอไว้ในลักษณะเล่าเรื่องด้วยภาษาที่เรียกได้ว่ากึ่ง ๆ จะเป็นกวีด้วยซ้ำในตอนท้ายบทสุดท้ายจากย่อหน้าล่างสุดหน้า 249 ไปถึงกลางหน้า 251 ค่ะ
ถ้าท่านอ่านไปได้จนจบเล่มถึงตรงนั้นภาพรวมของหนังสือทั้งหมดก็จะประกอบกันเข้าอย่างลงตัวหมดจดงดงามเหมือนภาพจิ๊กซอว์ที่ต่อเสร็จสมบูรณ์ในที่สุดค่ะ
ท่านจะเข้าใจเหมือนผู้วิจารณ์/ผู้แปลว่า อ้อ เพราะเหตุการณ์ตอนจบเล่มนั้นแหละ ที่นำมาสู่การเพียรพยายามค้นคว้าสาธยายเนื้อหาทั้งหลายอย่างละเอียดในเล่มนี้ เพื่อความสุข ความรัก และปัญญาญาณของพวกเราทุกคน ยิ่งถ้าท่านเคยมีโมเม้นต์การเข้าคอร์สปฏิบัติธรรมแบบเข้มเหมือนผู้เขียนและผู้วิจารณ์ท่านจะยิ่งเข้าใจค่ะ
หนังสือเล่มนี้เหมาะเป็นพิเศษสำหรับคนที่มีนิสัยพุทธิจริตค่ะ คือ ใฝ่รู้ มีเหตุผล ช่างสังเกต ไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ มองสิ่งต่าง ๆ ตามความเป็นจริง ใจกว้างปราศจากอคติ พร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นต่าง ๆ ที่มีเหตุผลค่ะ
นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ที่เคยเจริญสติภาวนามาอย่างได้ผลแล้วและสนใจมิติทางวิทยาศาสตร์ของการภาวนาของตนเอง
แต่โดยแก่นแท้แล้ว หนังสือเล่มนี้มีทุกสิ่งสำหรับทุกคนที่แสวงหาความจริง และความสุขที่ยั่งยืนค่ะ
หนังสือเล่มนี้จะให้อะไรกับท่าน ท่านคงต้องอ่าน(และลงมือปฏิบัติ)ด้วยตนเองค่ะ
ต้องมีเหตุผลอะไรสักอย่างแน่นอนที่ทำให้หนังสือเล่มนี้ขายดีไปทั่วโลกแม้ในประเทศที่ไม่ได้นับถือพระพุทธศาสนา ถึงขนาดต้องแปลออกไปถึง 25 ภาษา ท่านคิดเช่นนั้นไหมคะ?
หนังสือชื่อ สมองแห่งพุทธะ แปลจาก Buddha’s Brain: The Practical Neuroscience of Happiness, Love and Wisdom ของ ดร.ริค แฮนสัน และ นพ.ริชาร์ด เมนดิอัส โดย ดร.ณัชร สยามวาลา สำนักพิมพ์อมรินทร์ธรรมะ พิมพ์ครั้งที่ 1 ก.ย. 2557 281 หน้า ราคา 265 บาท มีจำหน่ายตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไปค่ะ
-----------------------------------------------------------------
คอลัมน์ "ดร.ณัชร ชวนจัดตู้หนังสือ" นี้ มีขึ้นเพื่อส่งเสริมให้คนไทยเพาะบ่มนิสัยรักการอ่านค่ะ