คอลัมน์ ดร.ณัชร จัดหนังสือ เล่มที่ 41 วันนี้ จะมาคุยถึงหนังสือชื่อ “ยิ่งหิว ยิ่งสุขภาพดี” ค่ะ
“ =ภาพรวม=
หนังสือเล่มนี้เขียนโดยแพทย์ญี่ปุ่นผู้มีแนวคิดที่ไม่ค่อยจะเหมือนใคร แนะนำวิธีการกินอยู่ที่ค่อนข้างสุดโต่งอยู่สักหน่อย คำว่า “สุขภาพดี” ในเล่มนี้ก็มักจะมาพร้อมกับคำว่า “ความงามของรูปลักษณ์ภายนอก” ค่ะ
ผู้วิจารณ์นับประโยคที่เน้นประเด็นความงามได้ไม่ต่ำกว่า 20 ครั้งใน 206 หน้า หรือประมาณ 1 ครั้งในทุก ๆ 10 หน้า แถมด้วยการปิดท้ายว่า จุดหมายสุดท้ายของการใช้ชีวิตแบบนี้คือ “การอยู่ถึง 100 ปีด้วยผิวเนียนและหน้าท้องที่แบนราบ”!!
เรามาดูประเด็นเด่นในเล่มกันนะคะ ”
=ประเด็นต่าง
ๆ จากในเล่ม=
* ใน 170,000
ปีที่ผ่านมาในประวัติศาสตร์มนุษย์ชาติ มนุษย์เพิ่งได้กินอิ่มครบ 3
มื้อเมื่อไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา
โดยญี่ปุ่นนั้นเพิ่งจะกินอิ่มสามมื้อช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 นี้เอง
* ตลอดเวลาดังกล่าว
ยีนของมนุษย์ถูกปรับให้เอาตัวรอดได้ในสภาวะที่อดอยากและเหน็บหนาว ร่างกายมนุษย์จึงไม่เคยชินกับการกินอย่าง
“อิ่มหนำสำราญ” อันเป็นที่มาของโรคต่าง ๆ
เช่น เบาหวาน มะเร็ง หัวใจ ฯลฯ
* จะต้องใช้เวลาอีกเป็นหมื่นปีกว่ายีนของมนุษย์จะปรับตัวเข้ากับการใช้ชีวิตแบบ
“อิ่มหนำสำราญ” นี้ได้
* ดังนั้น เพื่อปลุกยีนที่ทำให้อายุยืนและทำร่างกายให้กลับเป็นหนุ่มเป็นสาวอีก
จึงควรกินอาหารเพียงวันละ 1 มื้อ
และกินให้รู้สึกอิ่มเพียง 60%
โดยแนะนำให้กินข้าว
1 จานและซุป 1 ถ้วย และเปลี่ยนขนาดจานชามให้เล็กลง
* มื้อดังกล่าวจะเป็นมื้อใดก็ได้ นายแพทย์ผู้เขียนเลือกมื้อเย็น โดยแนะนำให้กินอิ่มแล้วรีบนอนทันที(?!)
* มื้อเช้าโดยเฉพาะถ้าต้องใช้สมอง
ให้อดอาหารเช้า แม้แต่น้ำก็ไม่ควรดื่ม ถ้าคอแห้งให้เคี้ยวหมากฝรั่งแทน(!?!)
* การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพไม่จำเป็น(!?!) การออกกำลังจนหัวใจเต้นแรงและเร็วไม่ดีต่อร่างกาย เพียงเดินในชีวิตประจำวันให้มากก็พอ
* เมื่อหิวจนท้องร้องจ๊อก
อย่าเพิ่งรีบกินในทันที
ปล่อยให้ท้องร้องไปสักพักก่อน(!?!?) เพราะตอนนั้นจะมียีนที่ออกมาซ่อมแซมร่างกายทำให้กลับเป็นหนุ่มสาวใหม่และสุขภาพดี
* คาเฟอีนคือสารพิษ จึงไม่ควรดื่มชากาแฟทุกชนิดรวมทั้งชาเขียว ยกเว้นชาร์บาร์เลย์และชาโกะโบ
(รากพืชญี่ปุ่นชนิดหนึ่ง) ที่ไร้คาเฟอีน
=ฝากไว้ให้คิด=
ความจริงการฉัน 1
มื้อ (มื้อเช้าหลังบิณฑบาตร) ก็มีอยู่ในธุดงควัตรตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้วค่ะ
และทุกวันนี้ก็ยังมีอยู่ในหมู่พระปฏิบัติ
ซึ่งท่านเหล่านั้นก็มักอายุยืน 80-90 ปี หรือบางทีก็ทะลุ 100 ปีจริง ๆ
แต่สิ่งสำคัญที่ผู้วิจารณ์อยากเชิญชวนให้ท่านผู้อ่านคิดก็คือ เราควรจะพยายาม “อยู่ให้ถึง 100
ปีด้วยผิวเนียนและหน้าท้องที่แบนราบ” แบบที่แพทย์ผู้เขียนต้องการเพียงแค่นั้นเองหรือ?
สาระของชีวิตคือ
“อยู่เพื่ออะไร” มิใช่หรือ?
การอยู่เพื่อทำประโยชน์ตน
(เจริญสติให้เข้ากระแสพระนิพพาน) และ
ประโยชน์ท่าน(ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ให้พ้นทุกข์) น่าจะเป็นเป้าหมายของชีวิตอันมีคุณค่าที่แท้จริงมากกว่าการอยู่ด้วยผิวที่เนียนเสมอมิใช่หรือ?
ชื่อหนังสือ
“ยิ่งหิว ยิ่งสุขภาพดี” แปลจาก “Kuufuku” ga
Hito wo Kenkou ni Suru ของ
นพ.โยะชิโนะริ นะงุโมะ โดย คุณพิมพ์รัก
สุขสวัสดิ์ สำนักพิมพ์วีเลิร์น 2557 206 หน้า ราคา 165 บาท
------------------------------------------------------------------
คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” นี้
มีขึ้นเพื่อส่งเสริมให้คนไทยรักการอ่านค่ะ
เด็กสิงคโปร์ และเด็กเวียดนามแต่ละคนอ่านหนังสือโดยเฉลี่ยปีละ
60 เล่ม ถ้าผู้ใหญ่ไทยรักการอ่านให้เด็กเห็น เด็กเราก็จะทำได้ทัดเทียมเพื่อนบ้านหรือดีกว่าค่ะ