คอลัมน์ ดร.ณัชร จัดหนังสือ เล่มที่ 175 วันนี้ จะมาคุยถึงหนังสือชื่อ “มาร์เก็ตติ้ง ลิงกลับหัว” ค่ะ
“ หนังสือเล่มนี้เป็นการ “เล่าเรื่อง” ความเป็นมาของแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จระดับโลก พร้อมทั้งวิเคราะห์ให้เสร็จว่าพวกเขาทำได้อย่างไร ผู้เขียนนอกจากจะเป็นเจ้าของกิจการแล้วยังเป็นนักอ่าน นักเดินทาง และนักชิม ดังนั้นเรื่องเล่าของเขาจึงมีสีสันค่ะ
แม้ท่านจะไม่ใช่นักสร้างแบรนด์ หนังสือเล่มนี้ก็อาจจะสร้างแรงบันดาลใจให้ท่านมุ่งมั่นทำงานของท่านอย่างเต็มที่ยิ่ง ๆ ขึ้นไปได้ค่ะ ”
เชฟโจเอล โรบูชง
เจ้าของร้านอาหารที่มีสาขาในหลายประเทศทั่วโลก ได้รับดาวจากมิชลินรวมกันแล้วถึง 28
ดวง ซึ่งมากกว่าเชฟใด ๆ ในโลก
เขาไม่เพียงแต่ใส่ใจแค่รสชาติอาหารหรือบรรยากาศ แต่ยังมอบประสบการณ์ให้ลูกค้าได้ “เรื่องราวดี
ๆ” กลับไปด้วยผ่านการเล่าเรื่องส่วนประกอบของอาหารและกระบวนการปรุงอย่างกระตือรือร้น
* “...ในความเป็นจริง ลูกค้า 20% จะสร้างรายได้ 80% ให้เรา เราดูแลคน 20%
นี้ดีพอหรือยัง? เราใส่ใจจะหาคนมาเติม 20% นี้ให้เต็มอยู่เรื่อย ๆ ไหม
โจทย์ไม่ใช่แค่การหาลูกค้าเพิ่ม
แต่ต้องหาลูกค้าที่มีคุณภาพเพิ่ม...”
* ในปี 2009
เมื่อหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของรัฐควีนส์แลนด์
ประเทศออสเตรเลียจำเป็นต้องโฆษณาให้โลกรับรู้ความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวของตนแต่มีงบจำกัด พวกเขาเลือกที่จะ “เปลี่ยนโจทย์” โดย
“เสนองานในฝัน” ให้คนมาสมัครแทน
งานดังกล่าวคือ
“เป็นผู้ดูแลหมู่เกาะแสนสวยงามระดับโลก
ดูแลปลา ดำน้ำ นอนอาบแดด เล่าเรื่องของตัวเองให้โลกฟัง โดยมีค่าตอบแทน 150,000 เหรียญอสเตรเลีย พร้อมที่พักและอาหารเป็นเวลา 6
เดือน”
และลงประกาศรับสมัครงานนี้ในหนังสือพิมพ์ทั่วโลก
ผลที่ได้รับคือแคมเปญนี้เป็นที่ฮือฮาและเข้าถึงผู้คนกว่า
3 พันล้านคนทั่วโลก
* เรโนวา
แบรนด์กระดาษชำระของโปรตุเกสใช้ความคิดสร้างสรรค์ทำให้ของที่ธรรมดามาก ๆ
อย่างกระดาษชำระสามารถเชื่อมโยงในระดับความรู้สึกกับผู้ซื้อและเรียกราคาที่สูงกว่าได้ โดยการนำเสนอสิ่งที่ลูกค้าไม่เคยได้รับมาก่อน
(กระดาษชำระหลากสีคุณภาพเยี่ยม) ด้วยการพูดในสิ่งที่ลูกค้าไม่เคยได้ยินมาก่อน (ห้องน้ำที่เซ็กซี่)
*
เมื่อโดมิโนพิซซ่าต้องการสื่อสารกับลูกค้าว่า
คุณสามารถสั่งพิซซ่าจากที่ไหนก็ได้ไม่จำเป็นเฉพาะจากที่บ้านและที่ทำงานเท่านั้น พวกเขาก็สร้าง “ประตู”
ไปวางไว้ตามที่สาธารณะต่าง ๆ พร้อมกับป้ายบอกว่า
สั่งพิซซ่าให้มาส่งที่นี่ได้ ภาพนั้นถูกแชร์ในโซเชียลมีเดียมากมาย แคมเปญประสบความสำเร็จงดงาม
* “...ถ้าคุณต้องการประสบความสำเร็จ
คุณต้องมีหลักการแห่งความเป็นเลิศในทุกองศาของทุกสิ่งที่ทำ
และไม่ยอมสูญเสียหลักการนั้นแม้แต่วินาทีเดียว ไม่ว่าจะมีคนมองสิ่งที่คุณทำอยู่หรือไม่ก็ตาม...”
* ในปี 2009
ทราวิส คาลานิก และ การ์เร็ตต์ แคมป์ สร้างอูเบอร์ขึ้นมา ซึ่งได้สั่นสะเทือนธุรกิจแท็กซี่ที่มีมาหลายสิบปีอย่างแรง ภายในเวลาไม่กี่ปี
อูเบอร์กลายเป็นบริษัทเทคโนโลยีนอกตลาดหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกที่
40,000 ล้านเหรียญสหรัฐ สูงพอ ๆ
กับนิสสันหรือ Federal
Express
ที่น่าทึ่งคือนิสสันมีโรงงานและที่ดินมากมาย FedEx
ก็มีทั้งเครื่องบินและโกดับเก็บสินค้า
แต่อูเบอร์แทบไม่มีอะไรเลยนอกจาก “ไอเดีย”
เพราะรถที่วิ่ง ๆ กันอยู่ส่วนใหญ่เป็นรถที่เจ้าของขับเองทั้งสิ้น
* เจมส์ ไดสัน ชาวอังกฤษผู้คิดค้นเครื่องดูดฝุ่นที่ไม่ต้องใช้ถุงเก็บฝุ่นต้องใช้เวลาถึง
5 ปีสร้างต้นแบบและล้มเหลวถึง 5,126 ครั้ง
จนกระทั่งทำสำเร็จในที่สุดในครั้งที่ 5,127
ปฏิวัติธุรกิจเครื่องดูดฝุ่นที่ไม่ได้ถูกพัฒนาอย่างจริงจังมากว่า 90
ปีอย่างสิ้นเชิง
เมื่อประสบความสำเร็จและตั้งศูนย์วิจัยพัฒนาสินค้าของตนเองขึ้นมา เขาเลือกจ้างคนที่มีทัศนคติที่ถ่อมตัว ช่างสงสัย
มุ่งมั่น
พร้อมจะลองและพร้อมจะล้มเหลว
ไดสันบอกว่าที่ศูนย์ของเขาไม่มองความล้มเหลวในแง่ลบแต่จะเรียนรู้และเดินหน้าต่อไป
หนังสือชื่อ “มาร์เก็ตติ้ง
ลิงกลับหัว” โดย รวิศ หาญอุตสาหะ สำนักพิมพ์เวิร์คพอยท์
พับลิชชิ่ง จำกัด 2558 288 หน้า ราคา 240 บาท
มีจำหน่ายตามร้านขายหนังสือชั้นนำและเวบไซต์ร้านหนังสือทั่วไป
------------------------------------------------------------------
เกร็ดน่ารู้:
*
เด็กสิงคโปร์และเวียดนามอ่านหนังสือเล่มโดยเฉลี่ยปีละ 60 เล่ม/คน
* คนไทยถึง 40%
ไม่อ่านหนังสือเล่มใด ๆ เลย
* แม้ในหมู่คนไทยที่อ่านหนังสือก็อ่านโดยเฉลี่ยเพียงปีละ
4 เล่ม/คน
คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” นี้
จึงมีขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติค่ะ
มาช่วยกันสร้างวัฒนธรรมการมอบหนังสือเป็นของขวัญในทุกโอกาสนะคะ