ที่เหลือเป็นข้อสังเกตถึงเคล็ดลับความสำเร็จในการทำธุรกิจของชาวจีนโพ้นทะเล ซึ่งจากเนื้อหาแล้วดูเหมือนเป็นการแปลจากหนังสือต่างประเทศ ถ้าไม่ใช่ภาษาจีนก็ภาษาญี่ปุ่น เพราะตัวอย่างที่ยกมากว่า 90% เป็นเรื่องของชาวจีนที่ไปตั้งรกรากทำการค้าอยู่ที่ญี่ปุ่น แต่ปกในก็ไม่ได้ระบุว่าเป็นหนังสือแปล
เนื้อหาในส่วนของลี กา ชิง นั้นผู้วิจารณ์เคยอ่านมาเกือบหมดแล้วในหนังสือชื่อ “คนจะรวย ช่วยไม่ได้” ของสำนักพิมพ์ปราณที่มีการนำมาตีพิมพ์ในชื่อใหม่ว่าอะไรจำไม่ได้แล้ว เป็นประวัติของมหาเศรษฐีโลกหลายสิบคน ซึ่งเทียบแล้วโดยรวมอัดแน่นด้วยเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์มากกว่าเล่มนี้
ยกเว้นท่านจะสนใจวัฒนธรรมการค้าของชาวจีนโพ้นทะเลในญี่ปุ่นจริง ๆ เล่มนี้จึงจะเหมาะกับท่าน
=น่าสนใจจากในเล่ม=
* ลี กา ชิง เริ่มต้นจากศูนย์ สู่สินทรัพย์รวมกว่าแสนล้านล้านบาท ชีวิตการทำงานเริ่มต้นจากบิดาได้เสียชีวิตลงตั้งแต่เขายังเล็ก ทำให้เขาต้องออกจากโรงเรียนมาทำมาหากินเลี้ยงน้อง
* เมื่อเป็นลูกจ้างพนักงานขายของโรงงานแห่งหนึ่ง ลี กา ชิงทำงานอย่างขยันขันแข็งกว่าใคร และเป็นผู้ใฝ่รู้ ภายหลังออกมาตั้งโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกของตนเอง ซึ่งนำไปสู่การตั้งโรงงานผลิตดอกไม้ประดิษฐ์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียในที่สุด
* จากนั้นลี กา ชิง ขยับขยายไปสู่อสังหาริมทรัพย์ และขยายออกไปสู่ธุรกิจอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ธุรกิจท่าเรือ การสื่อสารโทรคมนาคม พลังงาน และค้าปลีกในอีกกว่า 50 ประเทศ
* ลี กา ชิง เป็นมหาเศรษฐีใจบุญ ได้บริจาคทรัพย์สิน 1 ใน 3 ของตนเองให้การกุศล และยังคงใช้ชีวิตอย่างมัธยัสถ์ ใส่นาฬิกาเรือนเดิม ใส่รองเท้าคู่เก่า
* สำหรับลี กา ชิง วิสัยทัศน์เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เขาเริ่มพาลูกชาย 2 คนเข้าร่วมประชุมกรรมการบริษัทตั้งแต่ลูกชายอายุเพียง 9 ขวบ และ 7 ขวบ เพื่อต้องการให้ลูกรู้ว่างานที่พ่อทำเพื่อหาเงินไม่ง่ายเลย
* เคล็ดลับที่ทำให้ลี กา ชิง ประสบความสำเร็จคือการสะสมเงินในช่วงที่เศรษฐกิจขาขึ้น แล้วมาลงทุนในช่วงเศรษฐกิจขาลง
* ลี กา ชิง ได้แนะนำวิธีการสร้างเนื้อสร้างตัวของคนหนุ่มสาวมนุษย์เงินเดือนที่มีเริ่มต้นทำงานด้วยเงินเดือนเพียง 2,000 หยวนเอาไว้ โดยให้แบ่งเงินเดือนออกเป็น 5 ส่วน
* ส่วนแรกไว้จับจ่ายไม่เกิน 20 หยวนต่อวัน (เขาแนะนำอย่างละเอียดถึงอาหารที่ควรกินแต่ละมื้อ) ส่วนที่ 2 ไว้สร้างเพื่อนและสายสัมพันธ์ที่จะช่วยเหลือเรื่องธุรกิจ ส่วนที่ 3 เอาไว้เรียนรู้โดยการซื้อหนังสือและเข้าคอร์สอบรมต่าง ๆ
ส่วนที่ 4 เอาไว้เดินทางไปต่างประเทศในวันหยุดอย่างน้อยปีละครั้งเป็นการให้รางวัลตนเองและใช้ประสลการณ์ใหม่ ๆ นี้เพิ่มพลังในการทำงานต่อไป
ส่วนที่ 5 ให้เก็บไว้ในธนาคารเพื่อเป็นทุนในการทำธุรกิจ โดยเริ่มต้นทำธุรกิจเล็ก ๆ ก่อน ให้ไปหาผู้ค้าส่งและหาสินค้ามาขาย เมื่อเริ่มหาเงินได้ก็จะช่วยเพิ่มความมั่นใจกับความกล้าและได้เรียนรู้สิ่งต่าง ไ
เมื่อมีรายได้มากพอก็ให้เริ่มมองหาแผนการลงทุนในหลักทรัพย์ระยะยาว
* ลี กา ชิง ชอบอ่านหนังสือมาก ทุกวันนี้แม้อายุมากแล้วก็ยังอ่านหนังสือทุกวัน โดยมีนิสัยประจำคือต้องอ่านหนังสือก่อนนอนทุกคืน
* การอ่านมาก ฟังมาก รู้มาก ทำให้เขามีหูไวตาไว และตัดสินใจได้ว่องไวกว่าใครเมื่อเขาเห็นโอกาสธุรกิจเพียงแวบเดียวเท่านั้น ตอนเกิดวิกฤติเศรษฐกิจเมื่อ 10 ปี ที่แล้ว กิจการของเขาได้รับความบอบช้ำน้อยมากเพราะเขาพร้อมรับสถานการณ์ที่แย่ที่สุดอยู่เสมอ
หนังสือชื่อ “ซูเปอร์แมน “หลี่” ลี กา ชิง” โดย บุญชัย ใจเย็น สำนักพิมพ์เพชรประกาย 2558 240 หน้า ราคา 199 บาท มีจำหน่ายที่ร้านหนังสือชั้นนำและเว็บไซต์ร้านหนังสือทั่วไป
------------------------------------------------------------------
เกร็ดน่ารู้:
* เด็กเวียดนามอ่านหนังสือเล่มโดยเฉลี่ยปีละ 60 เล่ม/คน
* คนไทยถึง 40% ไม่อ่านหนังสือเล่มใด ๆ เลย
* แม้ในหมู่คนไทยที่อ่านหนังสือก็อ่านโดยเฉลี่ยเพียงปีละ 4 เล่ม/คน
คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” นี้ จึงมีขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติ