ค้นหา
เข้าสู่ระบบ
บทวิจารณ์บรรณาธิการ : คลินิกหุ้นมือใหม่
บทวิจารณ์บรรณาธิการ
โปรดอ่านหนังสือเล่มนี้ก่อนเล่นหุ้น! เขียนพิเศษสำหรับมือใหม่
หนังสือ
225.00 บาท
213.75 บาท
e-books(PDF) ?
200.00 บาท
คอลัมน์ ดร.ณัชร จัดหนังสือ เล่มที่ 337 วันนี้ จะมาคุยถึงหนังสือชื่อ “คลินิกหุ้นมือใหม่”
“ มือใหม่อยากเล่นหุ้น ทำอย่างไรดี? ต้องมีเหตุผลหลายอย่างแน่ ๆ ที่หนังสือเล่มนี้พิมพ์ครั้งที่ 11 แล้ว ความเห็นส่วนตัวของผู้วิจารณ์นั้นคิดว่าเป็นเพราะในเล่มแบ่งเป็นบทสั้น ๆ ความยาว 2-3 หน้าทำให้อ่านง่าย และเนื้อหาก็ครอบจักรวาลสำหรับมือใหม่ เนื้อหาราว 2 ใน 3 ของเล่มเป็นการปูพื้นฐานตั้งแต่ทัศนคติของการเล่นหุ้น ภาพรวมของเศรษฐกิจโลก นิยามของการลงทุน จนเข้าบทที่ 45 จากทั้งหมด 63 บทจึงเริ่มสอนอ่านงบอย่างง่าย ๆ และมีการสอนเรื่อง technical analysis ในบทท้าย ๆ พร้อมมีกราฟประกอบ ”
โดย ดร.ณัชร จัดหนังสือ
    
อ่านแล้วเปิดพอร์ตเล่นหุ้นได้เลยไหม?  ถ้าเป็นมือใหม่จริง ๆ อาจจะยังต้องไปอ่านหนังสืออื่น ๆ ประกอบอีกอย่างเช่นเล่ม “รวยด้วยหุ้นใคร ๆ ก็ทำได้” ที่ผู้วิจารณ์เคยเขียนถึงไปแล้ว   การลงทุนมีความเสี่ยง ดังนั้นยิ่งอ่านหลาย ๆ เล่มจากหลาย ๆ ผู้เชี่ยวชาญจึงน่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่ทุกคน

=น่าสนใจจากเล่ม=

*  คนที่ประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นในระยะยาวแทบไม่มีใครเลยที่ฟลุค  ทุกคนล้วนแต่  1) รู้จักตนเองว่าเหมาะกับการเล่นหุ้นวิธีไหน  2) รู้จักคนอื่น  เพราะการขึ้นลงของหุ้นอยู่กับ Demand & Supply  3) มีแผนการทำกำไรที่ชัดเจนและมีวินัย  4) ต้องมีความสุขบนทางที่เดิน

*  คนส่วนใหญ่ถึง 90% ของตลาดมักจะซื้อหุ้นในเวลาที่ไม่ควรซื้อมากที่สุด  วิธีแก้ปัญหาแบบง่าย ๆ คืออยากซื้อหุ้นไหนในเวลาไหนห้ามซื้อ  แต่ให้จดลงไปใน “Stock Wish List”  แล้วรอให้ราคาหุ้นลงไปถูกกว่าพื้นฐาน  จึงค่อยดูอีกทีว่ายังอยากซื้อหรือไม่ แล้วจึงซื้อ

*  เราสามารถนำหลักอิทธิบาท 4 มาใช้ในการเล่นหุ้นให้ประสบความสำเร็จได้ด้วย  อีกประการหนึ่งคือต้องเข้าใจความโลภและความกลัวของมนุษย์  เพราะเทรดเดอร์เป็นคนที่ทำกำไรจากการขึ้นลง  ซึ่งกำหนดโดยความโลภและความกลัวของมนุษย์

*  เวลาตลาดเกิดวิกฤติแรง ๆ เป็นโอกาสสุดยอดของการเรียนรู้สิ่งต่อไปนี้  1)  รู้ว่าเราซื้อหุ้นมาด้วยเหตุผลหรืออารมณ์  2)  รู้ว่าหุ้นที่เราซื้อมีเจ้ามือแบบไหน  เจ้าคือรายใหญ่ที่มีผลโดยตรงต่อราคา  

3)  เห็นโอกาสในวิกฤติ  4) รู้ว่าต้องลงมือลงทุนจริง ๆ ไม่ใช่นั่งคิดเฉย ๆ  5) รู้ว่าการตกหรือขึ้นของหุ้นครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งสุดท้าย  เพราะประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเสมอ

*  “CVRR” คืออักษร 4 ตัวที่ต้องรู้ก่อนการลงทุน  1) Cycle หมายถึง ทุกสิ่งในโลกนี้มีรอบของมัน  2) Value คือการศึกษาพื้นฐานและมูลค่าที่แท้จริงของกิจการ  3) Risk สิ่งเดียวที่คุณควบคุมได้ในการเล่นหุ้นคือความเสี่ยงของตนเอง  และ  4) Return  คือ ผลตอบแทนจากความเข้าใจและลงทุนอย่างถูกต้อง

*  กฏของแรงดึงดูดมีจริง  ห้าคนที่คุณใช้เวลากับเขามากที่สุดคือใคร  นั่นแหละอนาคตของคุณ

*  ถ้าอยากเล่นหุ้นแบบ technical ต้องดูกราฟเป็น  สามารถขอโปรแกรมดูกราฟฟรีแบบง่าย ๆ ได้จากโบรกเกอร์

*  จะซื้อหุ้นตามเทรนด์ขาขึ้นต้องดูออกว่าเทรนด์กำลังขึ้น  คือ ต้องรอมันลงก่อน  แล้วถ้ามันขึ้นทำ New High ก็แปลว่ามันขึ้น  คนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้เล่น technical ชอบรับหุ้นขาลง  แต่ในความเป็นจริงคุณไม่รู้หรอกว่าจะลงไปถึงเท่าไหร่  วิธีแก้คือซื้อเมื่อมันลงสุดแล้วเด้งขึ้นมาแล้ว

*  เราจะรู้ได้อย่างไรว่าหุ้นจะเด้งขึ้นหรือลงต่อ  วิธีง่าย ๆ คือวาง Trend Line ที่จุด Low  ถ้ามันเด้งขึ้นมาแล้วลงแต่ไม่ทำ New Low แปลได้เลยว่าเทรนด์ขาลงน่าจะจบแล้ว  แต่ถ้ามันเด้งขึ้นมาแล้วลงทะลุ Trend Line ลงทำ New Low แปลว่ามันจะลงลึกไปอีก  “ห้ามซื้อ!”

*  วิธีดูเทรนด์แบบง่าย ๆ โดยใช้ราคาอย่างเดียว เรียกว่า Dow Theory (ในเล่มมียกตัวอย่างกราฟประกอบ)

*  เราสามารถใช้ Moving Average เป็นเครื่องมือ Let Profit Run แบบง่าย ๆ  โดย Moving Average คือค่าเฉลี่ยของราคา  หากราคาวิ่งอยู่เหนือค่าเฉลี่ย แปลว่าหุ้นยังอยู่ในขาขึ้น  แต่ถ้าวิ่งอยู่ใต้เส้นเฉลี่ย แปลว่าอยู่ในขาลง

*  สิ่งสำคัญที่สุดในการเล่น technical คือต้องมีจุด Stop Loss ถ้าไม่มีเจ๊งทุกคน

หนังสือชื่อ “คลินิกหุ้นมือใหม่” โดย ภาววิทย์ กลิ่นประทุม  stock2morrow พิมพ์ครั้งที่ 11 มิถุนายน 2558 256 หน้า ราคา 185 บาท  มีจำหน่ายที่ร้านหนังสือชั้นนำและเว็บไซต์ร้านหนังสือทั่วไป
 ------------------------------------------------------------------
เกร็ดน่ารู้:

*  เด็กเวียดนามอ่านหนังสือเล่มโดยเฉลี่ยปีละ 60 เล่ม/คน 

*  คนไทยถึง 40% ไม่อ่านหนังสือเล่มใด ๆ เลย  

*  แม้ในหมู่คนไทยที่อ่านหนังสือก็อ่านโดยเฉลี่ยเพียงปีละ 4 เล่ม/คน  

คอลัมน์  “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” นี้ จึงมีขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติ

ลักษณะของหนังสือมีตำหนิ (หนังสือเกรด B)
ตัวอย่าง เกรด/สภาพ
สภาพหนังสือชำรุดเล็กน้อย (B1)
ปกพับ สันบุบ ขาด
ลดราคา 20%
สภาพหนังสือชำรุดปานกลาง (B2)
ปกพับ สันบุบ ขาด สังเกตเห็นได้ว่าขาด ชำรุดมาก
ลดราคา 30%
สภาพหนังสือเก่าชำรุดปานกลาง (B3)
แต่ไม่มาก อาจมีสภาพปกพับ ปกหักร่วมด้วย
ลดราคา 50%
สภาพหนังสือเก่ามาก (B4)
อาจมีสภาพชำรุดร่วมด้วย แต่เนื้อหายังครบถ้วน
ลดราคา 70%
(ซื้อแล้วไม่รับเปลี่ยน หรือคืนทุกกรณี ยกเว้นชำรุดอันเนื่องมาจากการพิมพ์)