มหาวิทยาลัยเบิร์กไชร์ แฮทธาเวย์ : University of Berkshire Hathaway

    "มหาวิทยาลัยเบิร์กไชร์ แฮทธาเวย์ : University of Berkshire Hathaway" เล่มนี้ ได้รวมบทเรียนจากกว่า 30 ปีที่ได้เรียนรู้จาก "วอร์เรน บัฟเฟตต์" และ "ชาร์ลี มังเกอร์" ผ่านการประชุมประจำปีของ "เบิร์กไชร์ แฮทธาเวย์" หนังสือเล่มนี้พยายามหาคำตอบว่าทำไมนักลงทุนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกสองคนจึงเลือกทำสิ่งที่เขาทำอยู่!

    ในหนังสือเล่มนี้ผู้เขียนติดตาม "วอร์เรน บัฟเฟตต์" อย่างใกล้ชิด เข้าร่วมประชุมทุกปีต่อเนื่องสามสิบปีรวด เขาศึกษาวิธีคิด วิธีการตัดสินใจ นำไปใช้ และเกิดผลลัพธ์ที่เขาเองยอมรับว่า คงทำผลตอบแทนระดับนี้ไม่ได้หากไม่ได้เรียนรู้จากวอร์เรน และนั่นทำให้เขามองว่า ความรู้ที่เอาไปใช้ได้จริงที่เขาได้เรียนรู้ มันคือที่นี่ที่วู้ดสต็อคออฟแคปิตัลลิสท์ ที่การประชุมประจำปีของเบิร์กไชร์ แฮทธาเวย์ ที่นี่เองจึงสมควรจะเป็นมหาวิทยาลัย ไม่ใช่มหาวิทยาลัยตามระบบที่เป็นที่นิยมเรียนกัน จึงเป็นที่มาของหนังสือเล่มนี้ "มหาวิทยาลัยเบิร์กไชร์ แฮทธาเวย์" 

สรุปการประชุมผู้ถือหุ้นเป็นปี ๆ ไป จากปี 1986-2017
ภาคผนวก 1 : ที่จุดเริ่มต้นนั้น...มีการจัดสรรเงินลงทุน
ภาคผนวก 2 : ความนิยมที่โตขึ้นอย่างมหัศจรรย์
ภาคผนวก 3 : บทเรียนที่ได้จากห้างสรรพสินค้าเบิร์กไซร์
ภาคผนวก 4 : อัตราส่วนลด/ตราสารหนี้/หุ้น
ภาคผนวก 5 : การคัดสรรข้อมูลเพื่อจัดทำหนังสือเล่มนี้

มุมมองที่ไม่เหมือนใคร ในการเข้าถึงความคิดของวอร์เรน บัฟเฟตต์
    -- เคอร์คัส รีวิว --

    ที่ผ่านมาผมไม่เคยเข้าประชุมประจำปีของเบิร์กไซร้ แฮทราเวย์เลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่าได้เข้าร่วมประชุมหลายต่อหลายครั้งการรวบรวมเอาความรู้ด้านการลงทุนมากมายมาไว้ใน หนังสือเล่มนี้ ทำให้หนังสือ มหาวิทยาลัยเบิร์กไซร้ แฮทราเวย์เป็นหนังสือที่ต้องอ่าน สำหรับนักลงทุน และผู้ประกอบวิชาชีพด้านการลงทุนทุกคน
    -- เวย์น เอฟ. ฮอลลี --

    ประธานบริษัท เซจ รัตตี้ แอนด์ คอมพานี่ผมได้อ่านความเห็นของ แดเนียล และ คอรีย์ เกี่ยวกับเบิร์กไชร์-แฮทราเวย์ ทุกปี ด้วยความตั้งอกตั้งใจอย่างยิ่งมา 25 ปีแล้วผมคิดว่า ไม่มีใครที่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้เบิร์กไชร้เป็นเครื่องจักรในการสร้างความมั่งคั่งมากไปกว่าสองคนนี้, คุณจะได้บทเรียนที่ล้ำค่าจากการอ่านหนังสือเล่มนี้อย่างแน่นอน
    -- โจนาราน แบรนต์ --

    บริษัท รูเวน, คันนิฟฟ์ แอนด์ โกลด์ฟาร์บการตัดสินใจอย่างเป็นเหตุเป็นผลเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่นักลงทุนระดับพระกาฬต้องมีไม่ว่าจะสร้างผลตอบแทนการลงทุนได้ในระดับ 8% ต่อปีหรือ 3,000% ต่อปี หรือ อินฟินิตี้% ต่อปี นักลงทุนทุกคนล้วนต้องมีสิ่งนี้ จึงจะทำซ้ำได้อีก จึงจะกล้าลงทุนลงแรง ลงใจ ลงการรอคอยอย่างมั่นคงหรือแม้แต่รอคอยอย่างไม่มั่นคงเพราะหากทำได้ครั้งเดียวล้วนเป็นลูกฟลุ๊กล้วนเป็นนักพนัน ไม่จัดว่าเป็นนักลงทุนนี่จะจริงหรือไม่ล้วนเป็นท่านที่ต้องลองไตร่ตรองดูดังนั้นความคิดพิจารณาที่เป็นเหตุเป็นผลจึงมีความสำคัญยิ่งและใคร ๆ ก็รู้ว่า ท่านวอเรนท์ บัฟเฟต์ และลุงชาลี มังเกอร์ มีสิ่งนี้เพราะความกล้าติดต่อกันได้ความกลัวติดต่อกันได้ความเป็นเหตุเป็นผลก็เช่นกัน
    -- สำนักพิมพ์มอเตอร์ไซค์สีแดง --