| จุตินวนิยายเล่มสุดท้ายในชุดมหากาพย์ "ไตรภาคเมืองแก่งคอย" ของ "อุทิศ เหมะมูล" เป็นเรื่องเล่าผจญภัย ทั้งเล่นล้อ ท้าทาย และตั้งคำถามกับพื้นที่ทางประวัติศาสตร์และความทรงจำของมนุษย์ที่ส่งทอดกันรุ่นต่อรุ่น |
* ราคาพิเศษเฉพาะเว็บ หนังสือ | 540.00 บาท 513.00 บาท |  |
|
 | จุติ | | |
"จุติ" นวนิยายเล่มสุดท้ายในชุดมหากาพย์ "ไตรภาคเมืองแก่งคอย" ของ "อุทิศ เหมะมูล" อาทิ ลับแล, แก่งคอย (2552), ลักษณ์อาลัย (2555) และ จุติ (2558) ทั้งสามเรื่องไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางด้านเนื้อหาและความสัมพันธ์ของตัวละคร ทว่า ผูกเกี่ยวกันด้วยพื้นที่อำเภอแก่งคอยอันเป็นสถานที่กำเนิดเรื่องราว ดังนั้น จึงอ่านแยกกันได้โดยไม่จำเป็นต้องอ่านเรื่องใดก่อนหรือหลัง
เป็นเรื่องเล่าผจญภัย ทั้งเล่นล้อ ท้าทาย และตั้งคำถามกับพื้นที่ทางประวัติศาสตร์และความทรงจำของมนุษย์ที่ส่งทอดกันรุ่นต่อรุ่น เสนอการพลิกผันและกลายกลับของตำนานพงศาวดาร ความเชื่อ และความทรงจำ ที่ถูกสร้างและเขียนทับทบกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งห้าเสียงเล่าในห้าภาคทำหน้าที่เป็น "รอยต่อ" และ "ระหว่าง" การดับและเกิดใหม่ เป็นการ "จุติ" ซ้ำแล้วซ้ำเล่าของเรื่องเล่าที่แตกต่างไปตามเงื่อนไขแห่งยุคสมัย (รวมถึงหลากลีลาสกุลงานทางวรรณกรรม) ของตัวมันเองด้วย และนี่คือนวนิยายเหาะเหินเดินอากาศ การผจญภัยในมิติสุดแสนพิสดาร มากด้วยความสำราญและใคร่ครวญ สำนักพิมพ์ขอเชิญชวนผู้อ่าน เดินอากาศ ด่ำจินตนาการ และดิ่งลงในโลกเฉพาะแปลกประหลาดแต่แสนคุ้นเคยไปด้วยกัน
- บรรพ 1 : แม่เฒ่าอภินิหาร
- ภาค 2 : การผจญภัยในโลกสมคบคิดของ ดร.สยาม
- ตอน 3 : ชะตาลิขิตดาว
- เล่ม 4 : โจทย์และทางออกของนักเขียนเงา
- โฟลเดอร์ 5 : การเกิดมีและดำรงอยู่ของมายา
"ความรู้สึกของผมหลังจากอ่าน จุติ จบ เป็นความรู้สึกระหว่าง 'นักเขียน' กับ 'นักเขียน' คืออ่านแล้วเห็นว่าไอ้หมอนี่นี่มันจะคลั่งวรรณกรรมอะไรได้ปานนั้น ถ้าวรรณกรรมมันกำลังล่มจมแล้วต้องเลือกใครสักคนมากอบกู้วรรณกรรมก็ต้องเป็นมันนี่แหละ ไม่มีใครอื่นแล้ว เพราะไอ้บ้านี่มันกอดรัดความเป็นวรรณกรรมไว้แน่นยิ่งกว่าใครคนอื่น มันช่างเอาเป็นเอาตายกับการปกป้องวรรณกรรมได้ถึงเพียงนั้น ในฐานะนักเขียนวรรณกรรมคนหนึ่งเหมือนกัน จะบอกว่าผมไม่เคยคิดเขียนนิยายเลยก็ดูจะเป็นการโกหกคำโตไปสักหน่อย นักเขียนทุกคนมันต้องเคยมีตัณหาเรื่องนี้กันทั้งนั้น อยากจะฝากชื่อไว้ด้วยนี้ยายเจ๋ง ๆ สักเรื่อง แต่อ่านงานของไอ้น้านี่แล้ว บอกตรง ๆ ว่าตอนนี้ผมเลิกเขียนนิยายแล้ว เปล่า ไม่ใช่เพราะ จุติ มันเลอเลิศเสียจนผมยอมจำนนไม่อาจเอาชนะ แต่เพราะไอ้คนเขียนมันบ้านิยายเข้ากระดูกชนิดที่แบบ - เออ กูยอมมึงก็ได้วะ"
-- วาด รวี --
"หนังสือเล่มนี้คือความโอ่อ่าอันเป็นพยานยืนยันว่า ผู้เขียนได้เติบโตจากนักเขียนหนุ่มมาเป็นนักเขียนชั้นครูได้อย่างไร เวลาอ่าน บางครั้งเรานึกถึงความลี้ลับในตัวหนังสือของ Umberto Eco และบางครั้งก็นึกถึงลีลาที่ซื่อตรง และทะนุถนอมชีวิตของ Orhan Pamuk โดยสรุป ถ้า ลับแล, แก่งคอย เป็นหนังสือที่ทรงพลังที่สุดในรอบหลายปี (ในความเห็นของเรา) จุติ ก็คือการคลี่คลาย พลังนั้นให้กลายเป็นวรรณกรรมไทยที่ mastery ที่สุดในรอบหลายปีนั่นเอง"
-- โตมร ศุขปรีชา --
"มหากาพย์ยาวเกือบหกร้อยหน้า เวลาในเรื่องทอดนานนับพันปีจากอดีตสู่อนาคต เริ่มอ่านแล้วว่างไม่ลง ต้องอ่านติดกันม้วนเดียวจบราวกับต้องมนตร์สะกดของผู้เขียน ซึ่งก็เขียนได้อย่างช่ำชองจนคนอ่านต้องอ่านอย่างแช่มช้า ด้วยว่าแทบทุกหน้าเต็มไปด้วย 'เรื่องเล่า' หลายระดับอันล้วนแล้วแต่ชวนตื่นตะลึง ถ่ายทอดจากปากของ 'ผู้เล่า' หลายปากหลายยุคสมัยหลายสำเนียง แต่ไว้ใจไม่ได้สักคน จนคนอ่านต้องคอยย้อนกลับมาอ่านบทก่อนหน้าอยู่เนือง ๆ เพื่อคอยสำรวจตรวจทานเปรียบเทียบจุดร่วมและจุดต่างระหว่างเรื่องเล่าของผู้เล่าแต่ละคน อีกทั้งน้ำเสียง วิธีเล่า ตลอดจนสิ่งที่ผู้เล่าแต่ละคนละไว้ไม่เล่า ก็บอกอะไร ๆ ได้มากมาย หลายครั้งอย่างอึงอล"
-- สฤณี อาชวานันทกุล --
ISBN | : 9786169289685 (ปกอ่อน) 576 หน้า |
ขนาดรูปเล่ม | : 142 x 207 x 30 มม. |
น้ำหนัก | : 685 กรัม |
เนื้อในพิมพ์ | : ขาวดำ |
ชนิดกระดาษ | : กระดาษถนอมสายตา |
สำนักพิมพ์ | : จุติ, สนพ. |
เดือนปีที่พิมพ์ | : 2022 |