จะเกิดอะไรขึ้นถ้า... : What If ?

       "จะเกิดอะไรขึ้นถ้า...วิศวกรของนาซา ผันตัวมาเป็นนักเขียนและนักวาดการ์ตูน?" คำตอบ...หนังสือวิทยาศาสตร์เล่มดังที่อ่านสนุกจนวางไม่ลงเล่มนี้...ใครจะไปคิดว่า "วิศวกรนาซา" กับ "นักวาดการ์ตูน" จะเป็นส่วนผสมที่ทำให้เกิดหนังสือขายดีที่ฮิตถล่มทลายไปทั่วโลก แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วจริง ๆ

    หนังสือ "What If? จะเกิดอะไรขึ้นถ้า..." เล่มนี้ ไม่เพียงอัดแน่นด้วยความรู้หลากหลายแขนง แต่ยังเปี่ยมล้นด้วยอารมณ์ขันและจินตนาการสุดบรรเจิด ผ่านคำถามสมมุติที่ส่งเข้ามาจากทั่วทุกมุมโลก ที่ทำให้คนอ่านอย่างเราต้องทึ่ง กับทั้ง "คนถาม" และ "คนตอบ" ซึ่งหลายคำตอบก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า นอกจากจะมอบความรู้เชิงวิทยาศาสตร์แล้ว ยังช่วยเปิดโลกและทำให้เรามองสิ่งต่าง ๆ รอบตัวได้ลึกซึ้งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จึงไม่แปลกที่หนังสือเล่มนี้จะทะยานขึ้นไปติดอันดับหนังสือขายดีทั่วโลก กลายเป็นหนังสือวิทยาศาสตร์ที่ขายดีที่สุดแห่งปี และขายลิขสิทธิ์ไปแล้วกว่า 30 ประเทศทั่วโลก!

- ลมพายุล้างโลก
- เบสบอลความเร็วสูง
- สระเก็บถังเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้ว
- คำถามพิลึก ๆ (และน่าหนักใจ) จากกล่องข้อความ The What If? #1
- ไทม์แมชชีนนครนิวยอร์ก
- คู่แท้
- เลเซอร์พอยเตอร์
- กำแพงตารางธาตุ
- ทุกคนกระโดด
- ตัวตุ่นหนึ่งโมล
ฯลฯ

- หนังสือแนะนำโดยบิลล์ เกตส์
- หนังสือวิทยาศาสตร์ที่ขายดีที่สุดแห่งปี และขายลิขสิทธิ์ไปแล้วกว่า 30 ประเทศทั่วโลก

 "หนังสือที่คนทั่วโลกควรต้องอ่าน" 
    -- New York Times --

    "what if? จะเกิดอะไรขึ้นถ้า..." เป็นหนังสือที่ผมอยากแนะนำให้พวกเราได้อ่านกัน เพราะไม่ใช่เพียงแค่ให้ความรู้แปลกใหม่หลายเรื่องทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างจินตนาการและเพิ่มมุมมองใหม่เกี่ยวกับสังคมโลกของเราอีกด้วย แถมยังเป็นหนังสือที่อ่านสนุก ใช้ภาษาที่ไม่ได้ยากเกินไป และมีมุกขำ ๆ ปนแทรกอยู่ตลอด ประมาณว่าถึงหนังสือจะหนาขนาดนี้ แต่ก็อ่านได้เพลินจนจบในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
    -- รองศาสตราจารย์ ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ --

    ผมได้มีโอกาสอ่านหนังสือ "what if?" มาตั้งแต่ตอนเป็นฉบับภาษาอังกฤษ บอกได้เลยครับว่าหนังสือที่เขียนแนวนี้หายาก เพราะนอกจากจะต้องใช้พลังของจินตนาการในการตั้งคำถาม ยังต้องใช้ความรู้ความเข้าใจและศาสตร์ต่าง ๆ ในการหาคำตอบ จึงจะทำให้หนังสือสมบูรณ์ได้ Randall Munroe เป็นคนที่เขียนหนังสือได้สนุกมาก เขาสามารถอธิบายเรื่องที่เข้าใจยากมาก ๆ ให้อยู่ในรูปแบบที่เข้าใจได้ง่าย อ่านแล้วสนุกลื่นไหล แต่ในขณะเดียวกันก็ได้ใช้สมองมาก ๆ ด้วยเช่นกัน หนังสือแบบนี้ไม่ได้หาอ่านง่ายนะครับ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน
    -- รวิศ หาญอุตสาหะ --

    ผมพิสูจน์ได้ว่า "what if?" สามารถใช้เป็นนิทานก่อนนอน และยังคิดว่าหนังสือเล่มนี้เหมาะกับคุณครูนำไปทดลอง ถ้าเรานำไปสอนเด็กในชั่วโมงเรียนวิทยาศาสตร์ มันจะเกิดอะไรขึ้นนะ? หนังสือที่เหมาะสำหรับวางไว้ในส้วม เท่ ๆ กับการวางไว้ในห้องเรียน หนังสือที่คุณพ่อคุณแม่อ่านแล้วรู้สึกฉลาดขึ้น เท่า ๆ กับหนังสือที่ใช้แทนนิทานก่อนนอน หนังสือที่ห้องสมุดในทุกโรงเรียนทุกมหาวิทยาลัยควรมี
    -- ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ --