ค้นหา
เข้าสู่ระบบ
บทวิจารณ์บรรณาธิการ : รู้มากไปทำไม...รู้ "ใจ" ก่อนดีกว่า
บทวิจารณ์บรรณาธิการ
เจาะลึกใจตัวเองด้วย "จิตวิทยาวิถีพุทธ" เพื่อเพิ่มพูนความสุขในทุกวันของชีวิต
หนังสือ
159.00 บาท
135.15 บาท
คอลัมน์ ดร.ณัชร จัดหนังสือ เล่มที่ 56 วันนี้ จะมาคุยถึงหนังสือชื่อ “รู้มากไปทำไม รู้ใจก่อนดีกว่า” ค่ะ
“ =ภาพรวม= หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือจิตวิทยาที่สอดแทรกแนวคิดแนวปฏิบัติของพระพุทธศาสนาลงไปด้วยค่ะ เขียนโดยนักเขียนหนุ่มน้อยขุนเขา สินธุเสน เขจรบุตร เป็นการรวบรวมส่วนหนึ่งของบทความที่เขาเคยเขียนในคอลัมน์ Mind Management ของนิตยสาร Secret นั่นเองค่ะ ”
โดย ดร.ณัชร จัดหนังสือ
    

ในเล่มแบ่งสิ่งที่เราควร “รู้” ไว้ 6 หมวดด้วยกันนะคะ คือ  1) รู้รัก  2) รู้คิด  3) รู้กาย  4) รู้โลก  5) รู้อารมณ์  และ  6) รู้สุข ค่ะ  โดยแต่ละหมวดก็จะเป็นบทความต่าง ๆ ย่อยลงไปอีกที

 

=น่าสนใจจากในเล่ม=

 

*  วิธีเยียวยาที่ได้ผลดีที่สุดเวลาอกหักคือ “การหาสิ่งใหม่ให้สมองได้สนใจ”  เช่น งานอดิเรกใหม่ ๆ  พบเพื่อนใหม่ ๆ  ท่องเที่ยวเพื่อเจอสิ่งใหม่ ๆ  ส่วนเมื่อใดที่สมองว่างให้นึกย้ำแต่สิ่งดี ๆ ที่เราอยากจะเป็นไว้บ่อย ๆ

 

*  จิตใต้สำนึกคนเรามีพลังมหาศาล  ดังนั้นความคิดลบเกี่ยวกับอนาคตที่เราหมั่นตอกย้ำกับตนเองบ่อย ๆ จึงเกิดขึ้นจริง ๆ ดังที่คิดได้ไม่ยาก

 

*  คนเรามีความคิดเฉลี่ยวันละ 15,000-60,000 ความคิด  และกว่า 80% เป็นความคิดที่เวียนวน ไร้ประโยชน์ และบั่นทอนชีวิต

 

*  บาดแผลบนร่างกายของคนที่มีความเครียด ความกลัว และ ความกังวลสูงจะสมานช้ากว่าบาดแผลบนร่างกายของคนที่มีความสุขและความสบายใจ

 

*  หากเราตั้งใจหายใจให้ยาวและลึกสัก 4-5 ครั้ง  สมองของเราจะ “ถูกหลอก” ว่าเรากำลังรู้สึกสบายใจ สุขุม และ มีพลังได้  กระบวนการนี้เรียกว่าการทำ “Biofeedback”

 

*  คนขี้โกรธมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตก่อนวัยอันควรมากกว่าคนที่เป็นโรคอ้วนเรื้อรังและคนที่สูบบุหรี่มาตลอดชีวิตเสียอีก

 

*  คนเราใช้เวลาเฉลี่ยเพียง 8 วินาทีในการดึงอารมณ์ให้กลับมาสู่สภาพปกติอีกครั้ง 

 

*  ผลวิจัยสมองจากอเมริกาพบว่า ความอิจฉาทำให้  1) ความจำแย่ลง  2) สมาธิสั้น  และ 3) ทำลายพลังในการควบคุมตนเอง 

 

*  เมื่อรู้สึกอิจฉาใครให้พยายามนึกถึงสิ่งเรามีและสำนึกถึงคุณค่าของมัน  เช่น เรายังมีชีวิต มีอวัยวะครบ 32 มีสมองที่ใช้การได้ ฯลฯ และให้รู้สึกกตัญญูต่อผู้คนที่รักเรา ช่วยเหลือเรา 

 

*  ความสุขเป็นสิ่งที่ฝึกกันได้  เช่น การนั่งสมาธิเพื่อเพิ่มเซโรโทนินหรือสารที่ให้ความรู้สึกอยู่เย็นเป็นสุข

 

*  จำนวนเส้นประสาทในสมองคือเครื่องบ่งบอกระดับสติปัญญาที่แม่นยำที่สุด  และสิ่งที่จะช่วยพัฒนาเส้นประสาทเหล่านั้นขึ้นมาได้ก็คือการได้เผชิญปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ (ซึ่งตรงกับพระพุทธศาสนาที่สอนว่าปัญญาจะเกิดได้ต้องผ่านการเข้าใจ “ทุกข์” ก่อนนั่นเอง)

 

=สรุป=

 

ถ้าท่านชื่นชอบข้อมูลเกี่ยวกับผลวิจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจิตวิทยาหรือประสาทวิทยา (การศึกษาเกี่ยวกับสมองและระบบประสาท)  ท่านจะอ่านหนังสือเล่มนี้อย่างเพลิดเพลินค่ะ

 

ผู้วิจารณ์ติดอยู่นิดเดียวที่พ่อหนุ่มน้อยนักเขียนนี้ดูจะเน้นไปที่เรื่องการดูลมหายใจเป็นหลักเท่านั้นเวลาสอนให้เจริญสติ  และมีสอนให้รู้เท่าทันความคิดตัวเองบ้าง

 

แต่ความจริงการเจริญสติตามหลักสติปัฏฐาน 4 นั้นมีหลักการ “เรียกสติให้มาจดจ่ออยู่ในปัจจุบันขณะ” อีกมากมายหลายอย่างนับไม่ถ้วนเลยนะคะในทั้ง 4 ฐาน  ซึ่งบางอย่างทำได้เร็วกว่าการดูลมหายใจอีก เช่น การรับรู้อาการกระพริบตา  เป็นต้น  ซึ่งถ้าทำถูกวิธีเพียงแค่พริบตาเดียวก็สามารถทำให้เกิดตัวรู้ได้ด้วย

 

แต่อย่าลืมว่าหนุ่มน้อยคนนี้อายุเพียง 25 ปีเท่านั้น!!  เขาเขียนได้ขนาดนี้ในวัยนี้ก็นับว่าเป็นเด็กอัจฉริยะแล้วล่ะค่ะ  ผู้วิจารณ์มั่นใจว่าในอนาคตเมื่อเขาได้มีโอกาสฝึกการเจริญสติตามหลักสติปัฏฐาน 4 อย่างเต็มรูปแบบอย่างต่อเนื่อง  ความสามารถของเขาจะยิ่งพุ่งกระฉูดและเขาจะสามารถช่วยคนได้อีกมาก

 

ดังนั้นในวันนี้เรามาช่วยกันให้กำลังใจเขาด้วยการสนับสนุนงานเขียนดี ๆ ของเขากันนะคะ

 

หนังสือชื่อ “รู้มากไปทำไม  รู้ใจก่อนดีกว่า”  โดย ขุนเขา สินธุเสน เขจรบุตร  สำนักพิมพ์อมรินทร์ How-To  ตุลาคม 2557  จำนวน 214 หน้า  ราคา 159 บาท  มีจำหน่ายตามร้านหนังสือชั้นนำและเวบไซต์ร้านหนังสือทั่วไปค่ะ

------------------------------------------------------------------

เกร็ดน่ารู้:

 

*  เด็กสิงคโปร์และเวียดนามอ่านหนังสือเล่มโดยเฉลี่ยปีละ 60 เล่ม/คน

 

*  คนไทยถึง 40% ไม่อ่านหนังสือเล่มใด ๆ เลย 

 

*  แม้ในหมู่คนไทยที่อ่านหนังสือก็อ่านโดยเฉลี่ยเพียงปีละ 4 เล่ม/คน 

 

คอลัมน์  ดร.ณัชร จัดหนังสือ” นี้ จึงมีขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติค่ะ 

-------------------------------------------------------------------

กรุณากด Get Notification ใต้ปุ่ม Like ที่หน้าเพจ “ดร ณัชร” เพื่อให้มั่นใจว่าท่านจะได้รับแจ้งทุกครั้งที่มีโพสต์ดี ๆ จากทางเพจนะคะ  ^_^

--------------------------------------------

รายชื่อหนังสือที่เคยรีวิวมาทั้งหมดในคอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” http://goo.gl/O0HQw2

-------------------------------------------

 

 

 

 

ลักษณะของหนังสือมีตำหนิ (หนังสือเกรด B)
ตัวอย่าง เกรด/สภาพ
สภาพหนังสือชำรุดเล็กน้อย (B1)
ปกพับ สันบุบ ขาด
ลดราคา 20%
สภาพหนังสือชำรุดปานกลาง (B2)
ปกพับ สันบุบ ขาด สังเกตเห็นได้ว่าขาด ชำรุดมาก
ลดราคา 30%
สภาพหนังสือเก่าชำรุดปานกลาง (B3)
แต่ไม่มาก อาจมีสภาพปกพับ ปกหักร่วมด้วย
ลดราคา 50%
สภาพหนังสือเก่ามาก (B4)
อาจมีสภาพชำรุดร่วมด้วย แต่เนื้อหายังครบถ้วน
ลดราคา 70%
(ซื้อแล้วไม่รับเปลี่ยน หรือคืนทุกกรณี ยกเว้นชำรุดอันเนื่องมาจากการพิมพ์)