คอลัมน์ ดร.ณัชร จัดหนังสือ เล่มที่ 181 วันนี้ จะมาคุยถึงหนังสือชื่อ “ความสำเร็จ สร้างได้ด้วยสมาธิ” ค่ะ
“ ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ต้องการบอกคุณว่า ผู้ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดระดับโลกชนิดที่เรียกว่า Top 1% นั้น ไม่ได้ก้าวขึ้นไปถึงจุดนั้นด้วยพรสวรรค์พิเศษค่ะ แต่เป็นเพราะพวกเขามีพลังในการทำสิ่งที่หลงไหลอย่างจดจ่อต่อเนื่องและทุ่มเทอย่างที่สุด
พลังดังกล่าวนี้คือ “สมาธิ” นั่นเองค่ะ
เนื้อหาในเล่มแบ่งเป็น 1) การศึกษาระดับปฐมวัยที่สร้างนิสัยแห่งความสำเร็จ 2) กรณีศึกษาของอัจฉริยบุคคลผู้เปลี่ยนโลก 3) เทคนิคที่ใคร ๆ ก็ทำได้ และ 4) การสร้างสมาธิให้องค์กร ”
* ผู้ก่อตั้ง Google, Facebook, Wikipedia และ Amazon มีอะไรเหมือนกับบารัค โอบามา และ ฮิลลารี
คลินตัน? ทุกคนเรียนในหลักสูตรช่วงปฐมวัยหลักสูตรเดียวกัน
คือ “หลักสูตรของมอนเตสซอรี”
* มาเรีย มอนเตสซอรี
จิตแพทย์หญิงชาวอิตาลีคนแรกที่ทำงานในโรงพยาบาลจิตเวชในอิตาลีช่วงต้นศตวรรษที่ 20
คิดค้นหลักสูตรการสอนเด็กปฐมวัยที่เป็นเอกลักษณ์ขึ้นมาเพื่อพัฒนาทักษะความสามารถของเด็ก
* หลักการสำคัญคือ การเสริมสร้างความเป็นอิสระในการตัดสินใจ
ให้เด็กเลือกเองว่าอยากจะทำอะไร และ
พลังแห่งสมาธิ
* เมื่อเด็กเป็นฝ่ายเลือกเองว่าอยากจะทำอะไร
ก็จะสามารถมีสมาธิทำสิ่งนั้นได้อย่างจดจ่อจนทำได้สำเร็จ แล้วเกิดความพึงพอใจ สิ่งนั้นจะประทับลงไปเป็นความประทับใจของเด็กและกลายเป็นนิสัยแห่งความสำเร็จในที่สุด
* ศาสตราจารย์ มิฮาย ชิกเซนต์มิฮายยี พบว่า ในขณะที่เรามีสมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างแน่วแน่จะรู้สึกเป็นสุขมาก ส่งผลให้เกิดการพัฒนาความสามารถ เขาเรียกสภาวะที่เราทุ่มเทพลังใจทั้งหมด
มีสมาธิจดจ่อ มุ่งมั่นอยู่กับเป้าหมายของตัวเองว่า “สภาวะไหลลื่น (flow)”
* วิธีสร้างสภาวะไหลลื่นที่ดีที่สุด คือ
การตั้งเป้าหมายที่ท้าทายความสามารถของตนเอง
และสอดคล้องกับความสามารถตนเองด้วย
ไม่ยากหรือง่ายจนเกินไป
* แม้จะเป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็ยังสามารถพัฒนาสมาธิได้ เพราะสมองมีลักษณะเด่น คือ มีความยืดหยุ่น (brain plasticity) สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดชีวิตของเรา
* แม่ของเซอร์เกย์ บริน หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Google กล่าวว่า
“การเรียนการสอนแบบมอนเตสซอรีมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาของเขาอย่างมาก มันเป็นจุดเริ่มต้นของการคิดด้วยตัวเอง
และการรู้คุณค่าของทุกสิ่งในชีวิตที่ได้ลองทำด้วยตนเอง”
*
การมีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่ตนเองคิดโดยไม่ยอมแพ้แรงกดดันจากภายนอกคือเคล็ดลับที่นำไปสู่ความสำเร็จของเจฟฟ์
เบซอส ผู้ก่อตั้งเวบ Amazon เวบไซต์ช็อปปิ้งออนไลน์อันดับ 1 ของโลก
* สิ่งสำคัญในการเพิ่มพูนพลังแห่งสมาธิของสุดยอดเซียนหมากรุกญี่ปุ่น
โยชิฮารุ ฮาบุ คือ การได้สัมผัสประสบการณ์ความสุขจากชัยชนะในช่วงแรก ๆ (เขาเริ่มเล่นหมากรุกเมื่ออยู่ชั้นป.1)
* สิ่งที่ช่วยรักษาพลังแห่งสมาธิ
ไม่ใช่มีแค่สมองเท่านั้น
แต่รวมไปถึงสุขภาพร่างกายและจิตใจที่แข็งแรงอยู่เสมออีกด้วย
* จุดเริ่มต้นของศาสตราจารย์ชินยะ ยามานากะ
ผู้ค้นพบ iPS
Stem Cell จนได้รับรางวัลโนเบลด้านการแพทย์คือความมุ่งมั่น
“อยากทำในสิ่งที่คนอื่นไม่ได้ทำ”
ซึ่งก็คือ “การตัดสินใจเลือกสิ่งที่อยากทำเอง”
* การฝึกฝนอย่างมุ่งมั่นไม่ว่าจะเป็นในการงาน
ดนตรี หรือ กีฬา ด้วยระยะเวลา 10,000 ชั่วโมง จะเป็นเกณฑ์ชี้วัดความสำเร็จ
(จากหนังสือ Outliers:
The Story of Success โดย มัลคอล์ม แกลดเวลล์)
* เมื่อจิตใจจดจ่อมุ่งมั่นอยู่กับสิ่งเดียว
เรียกว่า “สมาธิรวมศูนย์”
แต่การทำสิ่งใดให้สำเร็จจำเป็นต้องมี “สมาธิกระจายศูนย์” ด้วย (ผู้วิจารณ์อ่านแล้วรู้สึกว่าอย่างหลังคือ
“ความมีสติ” ค่ะ)
* หลัก 5S เพื่อเพิ่มพลังสมาธิ: 1) Simple ทิ้งสิ่งที่เกินความจำเป็นและทำให้เรียบง่าย 2) Small ตั้งเป้าหมายเล็กและทำสำเร็จได้ง่าย 3) Single ทำครั้งละ 1
เรื่องเท่านั้น 4) Short ทำในช่วงเวลาสั้น ๆ และ 5)
Smile สนุกกับสิ่งที่ทำและมีทัศนคติคิดบวก
* วิธีเอาชนะนิสัยผลัดวันประกันพรุ่ง
และสร้างความรู้สึกตื่นตัว มีสมาธิจดจ่อได้ คือ การสมมติว่า
“วันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิต”
หนังสือชื่อ “ความสำเร็จ
สร้างได้ด้วยสมาธิ” โดย Toyoshi
Nagata แปลโดย ดร.ศิริลักษณ์ ศิริมาจันทร์ สำนักพิมพ์ ส.ส.ท.
มิถุนายน 2558 216 หน้า ราคา 200
บาท
มีจำหน่ายตามร้านหนังสือชั้นนำและเวบไซต์ร้านหนังสือทั่วไป
-----------------------------------------------------------------
สถิติน่ารู้:
* เด็กสิงคโปร์และเวียดนามอ่านหนังสือเล่มโดยเฉลี่ยปีละ
60 เล่ม/ คน
* คนไทยถึง 40%
ไม่อ่านหนังสือเล่มใด ๆ เลย
*
แม้ในหมู่คนไทยที่อ่านหนังสือก็อ่านโดยเฉลี่ยเพียงปีละ 4 เล่ม/ คน
คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” นี้
จึงมีขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติค่ะ
มาช่วยกันสร้างวัฒนธรรมการมอบหนังสือเป็นของขวัญในทุกโอกาสนะคะ