(อ่านรีวิวเล่ม “ชีวิตดีขึ้นทุกด้านด้วยการจัดบ้านเพียงครั้งเดียว” ได้ที่นี่ https://goo.gl/fXF9W9 )

ในเล่มแบ่งหัวข้อการจัดเก็บข้าวของให้เป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม ง่ายต่อการหยิบมาใช้ไว้ 108 หมวด โดยแบ่งตามห้อง หมวดหมู่ และลักษณะการใช้สอย พร้อมภาพลายเส้นน่ารักประกอบทุกหมวด ทั้งผู้เขียนและผู้วิจารณ์ขอแนะนำให้คุณอ่านเล่มแรกก่อน มิเช่นนั้นคุณจะไม่เข้าใจหลักการและปรัชญาที่น่าทึ่งของการจัดบ้านในแบบ “คมมาริ” ได้อย่างเต็มที่

ในขณะที่เล่มแรกนั้นให้แง่คิดต่าง ๆ ที่ “ดีเหนือความคาดหมาย” เล่มนี้ผู้วิจารณ์รู้สึกว่าเวทมนตร์เริ่มจางไปเพราะแต่ละหน้าเป็นการให้คำแนะนำในเชิงปฏิบัติการ (practical) มากกว่าปรัชญาที่ซาบซึ้ง คงจะมีแค่บทส่งท้าย “การเตรียมตัวสำหรับขั้นต่อไปของชีวิต” เท่านั้นที่อ่านแล้วให้ความรู้สึกเติมเต็มเหมือนเล่มแรก

นอกจากนี้คำแนะนำในเล่มอาจจะฟังซ้ำ ๆ กันทุกบท เช่น “คัดแยกรวดเดียว” “เก็บแต่ของที่ปลุกเร้าความสุข” “ขอบคุณของทุกชิ้นที่ได้ทำหน้าที่มาอย่างดี” และ “ทิ้งให้หมดทันที” ซึ่งถ้าคุณไม่ได้อ่านเล่มแรกมาก่อนก็อาจไม่เข้าใจในนัยอันลึกซึ้งที่คนโด มาริเอะ ต้องการสื่อออกมาได้

แต่ถ้าคุณต้องการคำแนะนำในการจัดเก็บของ “ทุกประเภท” อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดพร้อมภาพประกอบจากนักจัดบ้านมือวางอันดับหนึ่งของโลกล่ะก็ คุณคงจะอยากอ่านเล่มนี้

=น่าสนใจจากในเล่ม=

* เราจะมีชีวิตเหมือนที่วาดฝันไว้ได้ก็ต่อเมื่อรู้จัก “เก็บไว้เฉพาะสิ่งที่ปลุกเร้าความสุข” ไม่ใช่ “ทิ้งให้หมดทุกอย่าง”

* หลัก 6 ข้อ ของวิธีจัดบ้านแบบคมมาริ

1) ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะจัดบ้าน เพราะการจัดบ้านขึ้นอยู่กับ “วิถีคิด” ถึง 90% จริงอยู่ที่ “วิธีทำ” ก็เป็นสิ่งสำคัญ แต่ถ้ารู้วิธีทำเพียงอย่างเดียวก็จะเกิดโยโย่เอฟเฟกต์จนบ้านกลับมารกอีกครั้ง

2) นึกภาพรูปแบบการใช้ชีวิตที่ปรารถนา โดยทำออกมาเป็นรูปธรรมเห็นได้ชัดเจน เช่น วาดรูป เขียนอธิบายลงในสมุด หรือ เปิดดูนิตยสารตกแต่งบ้านแล้วตัดภาพห้องที่ถูกใจมาแปะไว้ในสมุดก็ได้ ถ้าข้ามขั้นตอนนี้ไปบ้านจะกลับมารกอีก

3) เริ่มต้นจากการคัดแยกของแล้วทิ้งของที่ไม่ปลุกเร้าความสุขออกไป ยังไม่ต้องคิดเรื่องวิธีจัดเก็บของที่เหลือในขั้นตอนนี้

4) ให้จัดของตาม “หมวดหมู่” ไม่ใช่ตาม “พื้นที่” เช่น การรวบรวมเสื้อผ้าทั้งหมดในบ้านมากองไว้ที่เดียวกันก่อนคัดแยกจะทำให้คุณเห็นความจริงว่า “นี่ฉันมีเสื้อผ้าแยะขนาดนี้เชียวหรือ”

5) จัดบ้านด้วยลำดับที่ถูกต้อง คือ เสื้อผ้า หนังสือ เอกสาร โคะโมะโนะ (ของจิปาถะ) ปิดท้ายด้วยของที่มีคุณค่าทางจิตใจ

6) ถามตนเองว่าของชิ้นนั้นปลุกเร้าความสุขได้หรือไม่ ด้วยการถือมันขึ้นมาไว้ด้วยมือทั้งสองข้างแล้วฟังเสียงความรู้สึกของหัวใจ(และร่างกาย) ของที่ปลุกเร้าความสุขได้จะทำให้หัวใจเต้นตึกตัก ของที่ไม่ปลุกเร้าความสุขจะให้ความรู้สึกหนักอึ้ง ก่อนที่จะทิ้งของประเภทหลัง อย่าลืมกล่าว “ขอบคุณ” มันด้วย คุณจะเห็นคุณค่าของสิ่งของมากขึ้น

* ถ้าลอกฉลาก โลโก้ หรือคำพูดที่รกรุงรังบนผลิตภัณฑ์หรือเครื่องใช้ต่าง ๆ ภายในบ้านออกได้มากเท่าไหร่ สิ่งรบกวนจิตใจในบ้านก็จะลดน้อยลงเท่านั้น

* ไม่ว่าความทรงจำระหว่างคุณกับคนรักเก่าจะเป็นอย่างไร ก็อย่าพาลใส่สิ่งของ ควรบอกลามันว่า “ขอบคุณสำหรับความทรงจำที่ดี” และถ้าโรยเกลือลงไปด้วยก่อนทิ้งจะช่วยให้รู้สึกสบายใจขึ้นได้ (คนญี่ปุ่นเชื่อว่าการโรยเกลือคือการขับไล่สิ่งที่ไม่ดีไม่เป็นมงคลออกไป – ผู้วิจารณ์)

* การพิจารณาว่าตัวเราที่เกิดมาบนโลกใบนี้ “มีความสุขกับสิ่งใดบ้าง” เป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้เรารู้จักตัวเองได้อย่างแท้จริง

* ถ้าลองค้นหาสาเหตุลึก ๆ ที่ทำให้ตัดใจทิ้งไม่ลง สุดท้ายก็จะพบว่ามีอยู่แค่สองอย่าง นั่นคือ “การยึดติดอยู่กับอดีต” และ “ความกังวลเกี่ยวกับอนาคต” เท่านั้น

* เริ่มตั้งแต่ตอนนี้ก็ยังไม่สาย การตัดสินใจว่าจะจัดบ้านคือการบอกลาอดีตและก้าวไปสู่อนาคต ซึ่งหมายถึงการเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง เมื่อเราจัดระเบียบชีวิตในปัจจุบันแล้ว เราก็จะมองเห็นขั้นต่อไปของชีวิตเอง

* คนญี่ปุ่นเชื่อว่า “จิตวิญญาณที่อยู่ในสิ่งของ” มีอยู่ 3 อย่าง ได้แก่ “จิตวิญญาณของวัสดุที่ใช้” “จิตวิญญาณของผู้สร้าง” และ “จิตวิญญาณของผู้ใช้” หนังสือเล่มนี้จึงไม่ใช่กระดาษธรรมดาแต่บรรจุความรู้สึกอันแรงกล้าของผู้เขียนเอาไว้ด้วย

* แต่พลังและคุณค่าของหนังสือเล่มนี้จะเปล่งประกายได้มากแค่ไหนขึ้นอยู่กับวิธีใช้และความคิดของคนที่ใช้มัน นั่นก็คือ ขึ้นอยู่กับตัวคุณ และวิธีการใช้งานของคุณ

* หากทุกวันนี้คุณยังรู้สึกกังวลกับอะไรบางอย่าง ขอแนะนำให้ลองจัดบ้านดู และเมื่อเลือกของที่จะเก็บไว้ได้แล้ว ก็ขอให้ดูแลรักษาอย่างดีเหมือนที่คุณดูแลตัวคุณเอง

หนังสือชื่อ “108 เวทมนตร์แห่งการจัดบ้าน” โดย คนโด มาริเอะ แปลโดย อารีรัตน์ นาคสวัสดิ์ สำนักพิมพ์วีเลิร์น 2559 251 หน้า ราคา 195 บาท มีจำหน่ายที่ร้านหนังสือชั้นนำและที่เว็บไซต์ร้านหนังสือทั่วไป